RSS

การหาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน

การหาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน

กำหนดประเด็นปัญหา

1. การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทใดบ้างที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนในรัศมี 500 เมตร และมีพื้นที่เท่าใด
2. การใช้ประโยชน์ที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนอยู่ในตำบล อำเภอ และจังหวัดใดบ้าง และมีพื้นที่เท่าใด

กำหนดปัจจัยหรือตัวแปรที่ใช้วิเคราะห์
1. ขอบเขตน้ำท่วมถึงในพื้นที่ศึกษา
2. แผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดิน
3. ขอบเขตการปกครอง

การเตรียมข้อมูล  ได้แก่ การเชื่อมต่อข้อมูล การปรับแก้และตรวจสอบข้อมูล 

- ไปที่ Folder ชื่อว่า PASAK


-สร้าง Folder ขึ้นมาใหม่ตั้งชื่อว่า Dam


- เปิดชั้นข้อมูลขึ้นมา 4 ระวาง ดังต่อไปนี้  a5138i , a5238iii , a5238iv , a5239iii ขึ้นมาดังภาพ


-ทำการ Merge ข้อมูลโดยไปที่ Geoprocessing > Merge
  


- จากนั้นทำการ Marge ข้อมูลทั้ง 4 ระวาง และเก็บไว้ใน Folder ที่สร้างขึ้นโดยตั้งชื่อว่า Admin แล้วกด Save  แล้วกด Ok


จะได้ชั้นข้อมูลขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Admin


- คลิกขวาที่ Admin > Open Attribute Table


- จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Table ขึ้นมา ซึ้งจะปรากฏข้อมูลต่างๆของชั้นข้อมูล Admin ขึ้นมา


 - ไปที่ PASAK > code ดึงข้อมูลตาราง  luprv , lutam , luamp ขึ้นมา


-เปิดข้อมูล luprv ขึ้นมา


-จากนั้นจะปรากฏตารางข้อมูลขึ้นมาดังภาพ


- เปิดตารางของชั้นข้อมูล Admin ขึ้นมาดูเพื่อดูข้อมูลที่เหมือนกันกับ luprv ว่าอันไหนที่มีเหมือนกัน PRV_ID รหัสจังหวัด ซึ้งทั้งสองอันนี้มีความสัมพันธ์แบบ One To One = Join


- ไปที่ Table Option > Joins and Relates > Join


 - จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Join Data ขึ้นมา ในช่องที่ 1 เลือก PRV_ID ในช่องที่ 2 เลือก luprv ในช่องที่ 3 เลือก PRV_ID จากนั้นกด OK


- จากนั้นจะปรากฏข้อมูลเพิ่มขึ้นมา คือ PRV_NAME ชื่อจังหวัดที่มีพื้นที่ในเขื่อนป่าสัก

 - เปิดข้อมูล luamp ขึ้นมาจะปรากฏหน้าต่าง Table ซึ่งเก็บข้อมูลชื่ออำเภอเอาไว้


-เปิดตาราง Admin ขึ้นมา หาดูว่ามีข้อมูลอะไรที่เหมือนกับตาราง  luamp บ้าง นั้นก็คือ AMP_ID รหัสอำเภอ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบ One To One = Join


- คลิกที่ Table Option > Joins and Relates > Join


- จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Join Data ขึ้นมา ช่องที่ 1 เลือก AMP_ID  ช่องที่ 2 เลือก luamp  ช่องที่ 3 เลือก AMP_ID เสร็จแล้วกด OK



-จากนั้นจะปรากฏข้อมูล AMP_NAME ขึ้นมา ซึ่งเป็นชื่ออำเภอที่มีพื้นที่ในบริเวณเขื่อนป่าสัก


เปิดข้อมูล  lutam ขึ้นมา จากนั้นจะปรากฏตารางข้อมูลขึ้นมาดังภาพ


- เปิดตาราง Admin ขึ้นมาดูว่ามีข้อมูลตัวไหนที่ไหนที่เหมือนกับตาราง lutam บ้าง นั่นก็คือ ADM_ID ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบ One To One = Join   จากนั้นไปที่ table option > Joins and Relates > Join


- จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Join Data ช่องที่ 1 เลือก ADM_ID ช่องที่ 2 เลือก lutam ช่องที่ 3 เลือก ADM_ID


 - จากนั้นจะปรากฏข้อมูลเพิ่มขึ้นมา คือ TAM_NAME คือชื่อตำบลที่มีพื้นที่ในเขื่อนป่าสัก


 - ไปที่ PASAK เปิด Dam ขึ้นมาดังภาพ


-ทำการ Buffer โดยในช่อง Input Features เลือก dam


ในช่อง Output Feature Class ทำการ Save ในชื่อของ Dam_500


- ในช่อง Distance > Linear unit > 500 > Meters  เสร็จแล้วกด Ok


- จะปรากฏลักษณะเขื่อนที่ขยายออกไป 500 meters


-ไปที่คำสั่ง Clip ในช่อง Input Features เลือก Admin


-ในช่อง Clip Features เลือก dam_500



-ในช่อง Output Feature Class ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Admin_500 จากนั้นกด Save แล้วกด OK


-จากนั้นจะปรากฏลักษณะเขื่อนดังภาพ


 ให้นำเข้าชั้นข้อมูลดังนี้  l5239iii , l5238iv , l5238iii , l5138i 


-ทำการ Merge ข้อมูลโดยไปที่ Geoprocessing > Merge


- จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Clip ขึ้นมา ในช่อง Input Datasets  เลือก l5239iii , l5238iv , l5238iii , l5138i


- ในช่อง Output Dataset ทำการตั้งชื่อเป็น LU จากนั้นกด Save เสร็จแล้วกด OK


 - จากนั้นจะปรากฏชั้นข้อมูล LU ขึ้นมาแล้วทำการเปิด Attribute Table ขึ้นมา


 - จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างตารางข้อมูลของ LU


- นำข้อมูลตาราง lucode ขึ้นมา โดยไปที่ PASAK > code >lucode คลิกขวาที่ lucode > Open ดังภาพ


- จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Table ขึ้นมา แสดงข้อมูลของ lucode



- เปิด Table LU ขึ้นมา เพื่อดูว่ามีชั้นข้อมูลไหนบ้างที่ LU กับ Lucode มีเหมือนกัน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบ One To One = Join  จากนั้นไปที่ Table Option > Joins and Relates > Join


- จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Join Data ขึ้นมา ช่องที่ 1 เลือก LUCODE ช่องที่ 2 เลือก lucode ช่องที่ 3 เลือก LUCODE เสร็จแล้ว กด OK


 - จากนั้นจะปรากฏข้อมูลเพิ่มขึ้นมาคือ ASSOCLUT คือ พื้นที่ที่ถูกใช้ประโยชน์


-ทำการ Clip โดยในช่อง Input Features เลือก LU


 - ในช่อง Clip Features เลือก dam_500


 - ในช่อง Output Feature Class ทำการ Save ในช่อง Name ให้ใส่เป็น LU_500 จากนั้นกด Save เสร็จแล้วกด Ok



- เสร็จแล้วจะปรากฏดังภาพ


-ทำการ Union โดยในช่อง Input Features เลือก LU_500 , Admin_500


- ในช่อง Output Feature Class ทำการใส่ชื่อเป็น Final จากนั้นกด Save เสร็จแล้วกด OK


เปิดตารางข้อมูลของชั้นข้อมูล Final ขึ้นมา


 - ไปที่ Table Option > Add Field


- ในช่อง Name ใส่ Area ในช่อง Type เลือก Float ในช่อง Precision ใส่ 20 ในช่อง Scale ใส่ 2


-จากนั้นจะปรากฏข้อมูล Area เพิ่มขึ้นมาซึ่งเป็นข้อมูลพื้นที่ที่ยังไม่มีการคำนวณ


 - คลิกขวาที่ Area > Calculate Geometry กด Yes


- จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Calculate Geometry ขึ้นมา ในช่อง Property เลือก Area กด OK


- จากนั้นจะปรากฏข้อมูลพื้นที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งคำนวณมาแล้ว


 - ไปที่โปรมแกรม Excel เลือกไฟล์ที่มีชื่อว่า Final.dbf เสร็จแล้วกด Open



 จากนั้นจะปรากฏข้อมูลขึ้นมาดังภาพ


- คลิกที่ PivotTable 


-กดตกลง



- จากนั้นจะปรากฏแถบ PivotTable ขึ้นมาทางด้านขวามือ


- ติ๊กถูกที่ luprv_PRV1 เพื่อแสดงชื่อจังหวัดที่มีพื้นที่ที่อยู่ในเขตเขื่อนป่าสัก


- ติ๊กถูกที่ luamp_AMP1 เพื่อแสดงชื่ออำเภอที่มีพื้นที่ที่อยู่ในเขตเขื่อนป่าสัก


 - ติ๊กถูกที่ lutam_TAM_ เพื่อแสดงชื่อตำบลที่มีพื้นที่ที่อยู่ในเขตเขื่อนป่าสัก



- ติ๊กถูกที่ lucode_ASS เพื่อแสดงพื้นที่ที่ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตพื้นที่ที่อยู่ในเขตเขื่อนป่าสัก



- ติ๊กถูกที่ Area เพื่อแสดงจำนวนพื้นที่ที่มีพื้นที่อยู่ในเขตเขื่อนป่าสัก



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น