ปฏิบัติการที่5
การประมาณค่าช่วง(Interpolation)
การประมาณค่าในช่างเป็นการพยากรณ์
คาดการณ์ หรือทำนายค่าในข้อมูลประเภท (Raster) ไม่ว่าจะเป็นจุดความสูง (Elevation) ปริมาณน้ำฝน การกระจายตัวของสารเคมี ระดับเสียงรบกวนและอื่นๆ
โดยวิธีต่างๆดังนี้
1. การประมาณค่าในช่วงรูปแบบ Inverse Distance Weighted (IDW)
ทำการเปิดข้อมูลโดยไปที่ RTArcGIS > KANCHANABURI
>SPOT
เปิดเครื่องมือ IDW ไปคลิกที Arc Toolbox
> 3D Analyst Tools > Raster Interpolation > IDW
จะได้หน้าต่างดังนี้
เมื่อกดOK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
การกำหนดขอบเขตให้มีขอบเขตตามชั้นข้อมูลที่ต้องการศึกษา
โดยทำได้โดย
1.เปิดข้อมูลจาก PROVINCE จาก KANCHANABURI
ไปทำการปรับค่าที่ Processing Extent และ Raster Analysis ดังภาพ
ปรับให้ค่าแสดงเป็น
ต่อไปไปตั้งค่าที่ Raster Analysis โดยในส่วนของ Mask ให้คลิกเลือกเป็น PROVINCE
จากนั้นกด OK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
2.วิธีการประมาณค่าในช่วงรูปแบบ
Natural Neighbors
เปิดโดยไปที่ Arc Toolbox > 3D Analyst > Raster
Interpolation > Natural Neighbor จะได้
ต่อมา ให้ทำการกำหนดขอบเขตเหมือนเดิม โดยคลิกที่ Environments เหมือนวิธี
IDW เมื่อทำการตั้งค่าเสร็จจะได้ผลลัพธ์ดังนี้
3.วิธีการประมาณค่าในช่วงรูปแบบ Spline
วิธี Spline เป็นการนำสมการทางคณิตศาสตร์มาใช้ในการคำนวณ
เหมาะกับพื้นผิวที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น ความสูง
และความลึกของพื้นน้ำมี 2 วิธี คือ REGULARIZED และ TENSION
REGULARIZED คือเป็นเทคนิคที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีความเรียบ
และค่าของข้อมูลมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง
แบบค่อยเป็นค่อยไปโดยการกำหนดค่าน้ำหนักที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง
0-0.5
TENSION คือผลลัพธ์ที่ได้มีความเรียบน้อย กว่าแบบ Regularize
ทำการเปิด Spline โดยไปที่ Arc Toolbox > 3D Analyst Tools
> Raster Interpolation > Spline
จะได้หน้าต่างดังนี้ (แบบ REGULARIZED)
(แบบ TENSION)
ตั้งค่าทุกอย่างเหมือนแบบ REGULARIZED แต่เปลี่ยนช่อง Spline type เป็น TENSION จะได้ดังนี้
4.วิธีการประมาณค่าในช่วงรูปแบบ Kriging
เป็นวิธีการประมาณค่าช่วงขั้นสูง
โดยการใช้กระบวนการทางสถิติและสมการทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์
วิธีการนี้จะทำการเลือกสมการทางคณิตศาสตร์ที่เหมาะสมกับจุดตัวอย่างที่เลือกไว้ ภายในรัศมีที่กำหนดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในแต่ละพื้นที่ออกมา
เปิดKriging โดยไปที่ Arc Toolbox
> 3D Analyst Tools > Raster
Interpolation > Kriging
จะได้หน้าต่างดังนี้
เมื่อตั้งค่าขอบเขตเสร็จให้กด OK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
5.วิธีการประมาณค่าในช่วงรูปแบบ Trend
วิธีนี้จะทำการเลือกสมการทางคณิตศาสตร์ที่เหมาะสม
โดยการระบุลำดับของพีชคณิต (Polynomial) ให้กับจุดตัวอย่างทั้งหมด
เปิดTrend โดยไปที่ Arc Toolbox > 3D Analyst Tools > Raster Interpolation > Trend
จะได้หน้าต่าง
เมื่อตั้งค่าเสร็จ ให้ไปกำหนดขอบเขตโดยคลิกที่ Environments
ตั้งค่าเหมือนเดิม แลวกด OK
จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
6.การจำลองพื้นผิวด้วยคำสั่ง
(Topo to Raster)
ใช้สำหรับจำลองพื้นผิวโลกที่สามรถกำหนดได้หลากหลายตัวแปรในการสร้าง
DEM เส้นชั้นความสูงเชิงตัวเลข
ในการวิเคราะห์พื้นผิวได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
นำเข้าข้อมูลเป็นชุดของข้อมูลที่จะนำมาใช้สร้าง DEM
ประกอบด้วย 6 ตัวแปร
1.Point Elevation ตัวแปรความสูงหรือจุดความสูง
2.Contour เส้นชั้นความสูง
3.Stream เส้นทางน้ำ
4.Sink หลุม บ่อ
5.Lake
ทะเลสาบหรือบ่อน้ำ
6.Boundary
ขอบเขต
จากตัวแปรทั้งหมดในการสร้าง
DEM ไม่จำต้องมีมูลครบทั้งหมดก็ได้ แต่ ที่ขาดไม่ได้คือ Contour ส่วนข้อมูลอื่นๆ ที่นำมาใช้สร้าง
DEM เพื่อความสมบูรณ์ของข้อมูลมากขึ้น ในการสร้างในที่นี้ จะทำการสร้าง DEM
โดยใช้ข้อมูลทั้งหมด 4 ชั้นข้อมูล
สร้าง DEM โดยเปิดข้อมูลมา 4 ตัว SPOT, CONTOUR,
STREAM, PROVINCE จากKanchanaburi
โดยไปที่
Arc
Toolbox > 3D Analyst Tools > Raster Interpolation > Topo to raster แล้วทำการตั้งค่าตามรูปในส่วน Output extent ให้เลือกเป็น Same as layer PROVINCE ดังภาพ
แล้วเมื่อตั้งค่าตามนี้เสร็จให้กด OK ได้เลย
โดยไม่ต้องไปตั้งค่า Environments จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
7.การสร้างพื้นผิวในรูปแบบ (Triangulated Irregular Network:
TIN)
โครงข่ายสามเหลี่ยมหรือ
TIN เป็นโครงสร้างข้อมูลเวกเตอร์ที่เก็บและแสดงแบบจำลองพื้นผิว โดยทั่วไปแล้ว TIN นำมาใช้ในการสร้างแบบจำลองที่ต้องการความถูกต้องสูงและพื้นที่ศึกษาที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
เช่น งานทางวิศวกรรมศาสตร์ ใช้ 4 ข้อมูลในการทำ TIN ดังนี้ SPOT,CONTOUR
, STREAM , PROVINCE
เปิด TIN โดยไปที่ Arc Toolbox > 3D Analyst Tools > TIN Management
> Create TIN จะได้เมื่อทำการตั้งค่าตามรูปเสร็จ จากนั้นให้ไปตั้งค่า Environments เหมือนเดิมแล้วกด OK จะได้ดังนี้
จากนั้นให้ทำการแก้ไขสัญลักษณ์ โดยดับเบิลคลิกบนข้อมูล TIN ที่เราสร้างแล้วไปที่ Symbology > คลิกเครื่องหมายถูกหน้า Edge Types ออก เพื่อที่จะให้TINแสดงแต่ค่าความสูงเท่านั้น > OK
ได้ผลลัพธ์ดังนี้
วีดีโอ การประมาณค่าช่วง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น