RSS

การวิเคราะห์พื้นผิวภูมิประเทศ


ปฏิบัติการที่6
การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นผิวภูมิประเทศ (Surface Analysis)
1.การสร้าง Contour มีวิธีการสร้าง 2 วิธี
                1.1) การสร้าง Contour ครั้งละ 1 เส้น
                                วิธีการทำคือ
-นำเข้าข้อมูล DEM ที่เราจะนำมาสร้าง
-เปิดแถบเครื่องมือ 3D Analyst โดยคลิกที่ customize>tool bars > เลือก 3D Analyst
-คลิกปุ่ม Create Contour บนแถบเครื่องมือ 3D Analyst และคลิกบนพื้นผิวที่ต้องการสร้างเส้น  Contour
จะได้ดังนี้
 1.2) การสร้าง Contour แบบกำหนดระยะห่างของเส้น Contour
เป็นการสร้างเส้น Contour ครั้งเดียวที่มีความห่างของเส้น Contour เท่าๆ กันตามค่าที่กำหนด
ทำได้โดยไปที่ Arc Toolbox > 3D Analyst Tools > Raster Surface > Contour

                     เสร็จแล้วกด Ok จะได้ดังภาพ
 1.3 การปรับสัญลักษณ์เส้น Contour
- คลิกขวาที่ชั้นข้อมูล Contour เลือก Properties > Symbology > Categories > Unique values   ที่ Value Field ให้เลือกฟิลด์ที่เก็บค่าระดับความสูง คือ Contour  เลือกสี และคลิก Add All Values > OK


เมื่อกด OK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

 2.การวิเคราะห์แนวการมองเห็น (Line of Sight)
                ใช้สำหรับวิเคราะห์การมองเห็นว่าพื้นที่ใดสามารถมองเห็นได้บนพื้นผิวจากตำแหน่งต่าง ๆใช้ประโยชน์ในงานด้านต่าง ๆ เช่น การประเมินพื้นที่เพื่อวางแผนตั้งกองกำลังทหาร การสร้างหอคอย และการสร้างหอสื่อสาร
เปิดเครื่องมือโดยไปคลิกที่ 
 จะได้หน้าต่างแบบนี้ขึ้นมา


วิธีทำ > คลิกลากตำแหน่งที่ต้องการเป็นจุดยืนหรือจุดมอง และลากเส้นไปในทิศทางที่ต้องการมอง หรือ คลิกตำแหน่งที่ต้องการมองไปถึงเป้าหมาย  จะได้ดังนี้


-เส้นสีแดง (Obstructed area) คือ บริเวณที่ถูกกีดขวางจากจุดสังเกตุ
-เส้นสีเขียว (Visible area) คือ บริเวณที่สามารถมองเห็นจากสุดสังเกตุ
-จุดสีดำ (Observer location)  คือ ตำแหน่งจุดสังเกตุ
-จุดสีน้ำเงิน (Obstruction point) คือ ตำแหน่งที่ถูกกีดขวางจากตำแหน่งจุดสังเกตุไปยังตำแหน่งเป้าหมาย
-จุดสีแดง (Target location) คือ ตำแหน่งเป้าหมาย

3.การวิเคราะห์ทิศทางการไหล (Steepest path)
                เป็นการคำนวณหาทิศทางการไหล หากเริ่มปล่อยวัตถุจากจุดที่กำหนดบนพื้นผิว วัตถุจะไหลลงมาตามเส้นทางที่ชันที่สุด  เป็นการประเมินรูปแบบการกลิ้ง (Runoff patterns) ของวัตถุจากแบบจำลองพื้นผิวโดยจะดูทิศทางการไหลของวัตถุที่ถูกปล่อยจากจุดที่กำหนด ไปตามลักษณะของพื้นที่

เปิดเครื่องมือโดยไปคลิกที่      Create Steepest Path


จากนั้นคลิกบนพื้นผิว ที่ตำแหน่งที่ต้องการดูทิศทางการไหล


4.การแสดงภาพตัดขวาง (Profile)

                         เป็นการแสดงระดับความสูงของพื้นผิวตามแนวเส้นที่กำหนด   ภาพตัดขวางสามารถช่วยในการประเมินความยากง่ายของเส้นทาง หรือประเมินความเป็นไปได้ในการสร้างถนน หรือทางรถไฟในบริเวณที่กำหนดได้ 


จากนั้นคลิกพื้นที่ที่ต้องการสร้าง2จุด แล้วไปคลิกที่ Crate Profile Graph > Profile Graph


นอกจากนี้ยังสามารถสร้างเส้นมาอีกหนึ่งเส้น เพื่อมาเปรียบเทียบกันได้ ทำได้โดย สร้างเส้นขึ้นมา 2 เส้น แล้วก็ดับเบิ้ลคลิกที่เส้นเพื่อเปลี่ยนสีเส้นให้ต่างกัน จากนั้นก็กดShiftค้างเลือกทั้ง2เส้น แล้วกด  Interpolate Line

จะได้ 

5.การวิเคราะห์ความลาดชัน (Slope)
                เป็นการคำนวณอัตราการเปลี่ยนแปลงค่าความสูงจากเซลล์หนึ่งไปยังเซลล์ใกล้เคียง ความลาดชันสามารถคำนวณและวัดได้ 2 ประเภท ได้แก่ เปอร์เซ็นต์ (Percent rise)/ องศา (Degree)

โดยไปที่ Arc Toolbox > 3D Analyst > Raster Surface > Slope

 เสร็จแล้วกด Ok จะได้ผลลัพธ์ดังรูปต่อไปนี้


5.2) Percent rise

เมื่อกด OK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้


6.การวิเคราะห์ทิศทางการหันเหของความลาดชัน (Aspect)
                 Aspect เป็นการกำหนดพื้นที่รับแสง  จะวัดตามเข็มนาฬิกาจาก 0-360 องศา ค่าของทุกเซลล์จะบ่งบอกทิศทางการหันเหของความลาดชัน   โดยพื้นที่ที่เป็น Flat slope จะไม่มีทิศทาง และมีค่าเป็น -1 เสมอ    สามารถนำไปประยุกต์กับการสร้างแบบจำลองต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น แบบจำลองการเจริญเติบโตของพืช การประมาณการละลายของหิมะ การกำหนดพื้นที่เพื่อติดตั้งเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์

ทำได้โดยไปที่ Arc Toolbox > 3D Analyst > Raster Surface > Aspect

เมื่อกด OK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้


7.การวิเคราะห์การตกกระทบของแสง (Hill shade)
                เป็นรูปแบบความสว่างและความมืดที่พื้นผิวจะได้รับเมื่อให้แสงสว่างจากมุมที่กำหนด ในการคำนวณการตกกระทบของแสงต้องกำหนดตำแหน่งแหล่งกำเนิดแสงก่อน และจากนั้นจึงคำนวณค่าของแสงในแต่ละเซลล์ค่าของแสงที่ตกกระทบจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-255 ซึ่งแทนด้วยระดับสีเทาจากสีดำจนถึงสีขาวตามลำดับ
-กำหนดให้ Azimuth เป็นทิศทางมุมของแสงอาทิตย์ วัดจากทิศเหนือตามเข็มนาฬิกา 0-360 องศา   โดย Azimuth ที่ 90 องศาเป็นทิศตะวันออก (E) ค่าตั้งต้นเป็น 315 องศา (NW)
-กำหนดให้ Altitude เป็นค่า Slope หรือมุมของแหล่งที่ให้แสงสว่างเหนือแนวราบ หน่วยเป็นองศา จาก 0 (แนวราบ) ถึง 90 องศา (เหนือศรีษะ) ค่าตั้งต้นเป็น 45 องศา

เปิดโดยไปที่  Arc Toolbox > 3D Analyst Tools > Raster Surface > Hill shade

เมื่อกด OK จะได้

 - การปรับชั้นข้อมูล DEM ให้โปร่งแสงสามารถซูมเข้าไปดูรายละเอียดใกล้ๆ จะเห็นข้อมูล DEM มี ลักษณะเป็น 3 มิติ ซึ่งจะนูนขึ้นเหมือนภูมิประเทศจริงในแต่ละพื้นที่  โดยคลิกขวาเลือก Properties > Display
- เปลี่ยนค่าของ  Transparency ให้อยู่ในช่วง 35-40 % ตามความเหมาะสม > Apply
- เปิดแสดงผลเฉพาะข้อมูล DEM และ Hill shade


8.การวิเคราะห์พื้นที่การมองเห็น (View shed)
เป็นพื้นที่บนพื้นผิวที่สามารถมองเห็นได้จากจุดสังเกตสำหรับตำแหน่งที่มองเห็นได้ สามารถหาได้ว่ามีผู้สังเกตกี่คนที่สามารถมองเห็นตำแหน่งนั้นได้รวมถึงกำหนดค่าความสูงของผู้สังเกต จำกัดความห่าง ความสูง และทิศทางที่จะมอง การหาตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้นั้นสามารถหาได้จากหนึ่งหรือหลายจุดสังเกต หรืออาจเป็นแนวเส้นสังเกตก็ได้ ผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์แสดงออกมาเป็นค่า 0 และ 1 คือ
0 แทนพื้นที่ที่ไม่สามารถมองเห็น
1 แทนพื้นที่ที่สามารถมองเห็นได้
View shed สามารถนำไปใช้ในการหาพื้นที่สำหรับการสร้างหอบังคับการ หอควบคุมไฟป่า หรือที่ตั้งของแท็งก์น้ำ จุดชมวิวของโรงแรม เป็นต้น
ทำได้โดยสร้าง Shape file ข้อมูลจุดขึ้นมา เพื่อสร้างเป็นตำแหน่งจุดสังเกต และก็ใส่ค่าพิกัดโดยไปที่ Edit
            จะได้ผลลัพธ์

จากนั้นไปที่ Arc Toolbox  > 3D Analyst > Raster Surface >  View shed  จะได้


เมื่อตั้งค่าตามภาพแล้ว ให้กด OK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

 9.การประมาณปริมาตรในการขุดและถมที่ (Cut/Fill)
          ใช้คำนวณปริมาตรดินเพื่อใช้ถมที่สำหรับสร้างบ้าน หรือการสร้างถนนจะต้องขุดหรือถมดินในบริเวณนั้นเท่าใด ประมาณปริมาณของตะกอนที่ถูกกัดกร่อนหรือถับถมในแม่น้ำ การจำแนกพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากจากการประมาณโคลนตะกอน เพื่อความปลอดภัยในการสร้างบ้าน
 นำเข้าข้อมูล DEM_BEFORE และ DEM_AFTER จาก RTArcGIS
ไปที่  Arc Toolbox > 3D Analyst Tools > Raster Surface > Cut Fill แล้วใส่ข้อมูลดังภาพ จะได้


-Input before raster surface คือ กำหนดข้อมูลพื้นผิวก่อนการเปลี่ยนแปลง
-Input after raster surface คือ กำหนดข้อมูลพื้นผิวหลังการเปลี่ยนแปลง

-Output raster คือ กำหนดชื่อและเก็บผลลัพธ์ 


เมื่อกด OK จะได้ผลลัพธ์ดังนี้






1 ความคิดเห็น:

calvexvacura กล่าวว่า...

Titanium Max Trimmer | The Titanium Art Gallery
The Titanium Art Gallery offers you trekz titanium headphones an micro titanium trim all-in-one collection of the world's most beautiful and spectacular sculptures oakley titanium sunglasses with titanium mesh a perfect balance of ridge wallet titanium

แสดงความคิดเห็น